พี่นุ้ยรีวิวหนัง : Baba Yaga จ้างผีมาเลี้ยงเด็ก
#รีวิว #babayaga #บาบายากา #จ้างผีมาเลี้ยงเด็ก #พี่นุ้ยรีวิวหนัง #สปอย
ถ้าเราอยากให้สิ่งไหนมีชีวิตอยู่ก็ให้เก็บมันไว้อยู่ในความทรงจำของเรา ทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า To forget the dead would be akin to killing them a second time. (การลืมคนที่ตายไปแล้วก็เหมือนฆ่าเขาเป็นครั้งทีสอง)
เรื่องอ้างไปถึง folklore ตำนานพื้นบ้านของปีศาจแม่มดบาบายากาที่ชอบจับเด็ก (หนังเรื่องนี้เป็นหนังรัสเซียนะคะ) แม่มดก็จะมีสมุนที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก (ซึ่งไม่ใช่คน แต่ปลอมตัวว่าเป็นคนปกติ) ที่เข้าไปทำงานในบ้านสุดท้ายก็จับเด็กเอาไปให้แม่มด โดยนางเอาเด็กไปแล้วใช้มนตร์ให้คนในบ้านจำเด็กคนนั้นไม่ได้อีกเลยเสมือนไม่เคยมีเด็กนี่อยู่บนโลกด้วยซ้ำ
เด็กเลยหายไปจากเมืองเรื่อยๆ พระเอกเป็นเด็กผู้ชายที่รับรู้ได้ถึงความปกติของพี่เลี้ยง และวันหนึ่งทารกน้องสาวของเขาที่เกิดกับแม่เลี้ยงนั้นหายไป ทุกคนก็ลืมเธอไปหมดยกเว้นพระเอกนี่แหละ เขากับแก๊งเพื่อนก็ไปตามหาน้องสาวที่หายไป สุดท้ายก็พาน้องกลับมาและจัดการกับปีศาจแม่มดได้
เล่าๆมาอาจดูเหมือนว่าเรื่องสนุกนะคะ แต่ถ้าไปดูในโรงแล้วจะรู้สึกว่าอึดอัดมาก เป็นหนังผีที่เหมือนหนังแฟนตาซี น่ากลัวก็ไม่สุด ความสมเหตุสมผลไม่มี จะเป็นหนังเด็กก็ไม่เชิงอีก แม่มดเป็นปีศาจด้ายแดงเหมือนจะไปอยู่ในโรงไฟฟ้าที่พระเอกมุดท่อเข้าไป เข้าใจว่าท่อนี้คล้ายประตูมิติข้ามไปสู่ดินแดนที่แม่มดอยู่ และแม่มดก็ตายง่ายมาก แค่เอาประทัดปาใส่ก็ตาย จบเรื่องค่ะ
ต้นเรื่องดูเหมือนหนังผี แต่พอถึงท้ายเรื่องกลายเป็นหนังผจญภัยของกลุ่มเด็ก สะท้อนความรักและมิตรภาพวัยเยาว์ เลยไม่รู้ว่าจะจัดอยู่ในหนังประเภทไหนดี horror? หรือ adventure? แต่อย่างน้อยที่สุดหนังเรื่องนี้ได้สอนให้เห็นถึงคุณค่าของ memory หรือความทรงจำ แม้บางอย่างหรือบางคนจะตายไป หากเรายังจดจำได้
ก็เท่ากับว่าสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นก็ยังอยู่กับเราเสมอ The person is gone, but the memories stay.
สำหรับใครที่สนใจคำพูดที่ว่า “To forget the dead would be akin to killing them a second time.” สามารถเข้าไปติดตามต่อได้ที่คลิปของพี่นุ้ยในช่อง youtube ของพี่นุ้ยที่ขึ้นด้านล่างต่อได้นะคะ