#สปอย #พี่นุ้ยรีวิวหนัง #songbird #รีวิว #หนังใหม่ #โควิด #โควิด23 #ไวรัสล้างโลก
Songbird เป็นหนังเกี่ยวข้องกับโควิด โดยจำลองภาพว่าถ้าโควิดกลายพันธุ์แล้วยังอยู่ไปเรื่อยๆโลกจะเป็นอย่างไร มีเคอร์ฟิวส์ทุกวัน ห้ามออกจากบ้าน มีเครื่องฆ่าเชื้อหน้าบ้าน เวลาพนักงานมาส่งของก็ต้องเอาของหย่อนใส่เครื่องนี้ก่อน ทุกวันต้องวัดไข้แล้วรายงานรัฐบาล
พระเอกของเรื่องเป็นพนักงานส่งของและตกหลุมรักกับนางเอกเพราะไปส่งของผิดบ้านในช่วงโควิด จุดใหญ่ใจความของเรื่องคือย่านางเอกติดโควิดแล้วตาย (นางเอกอยู่กับย่าสองคนในอพาร์ตเมนต์) ทำให้นางเอกต้องถูกเอาตัวเข้ากักกันโดยจะมีเจ้าหน้าที่มารับ พระเอกจึงต้องหาทางช่วยโดยไปเอากำไลมาให้นางเอกใส่ ในเรื่องกำไล (bracelet) หรือดูแล้วคล้ายกับสายรัดข้อมือหรือ wristband นั้นเป็นตัวบ่งบอกว่าคนนี้มีภูมิคุ้มกัน ไม่ต้องเข้ากักกัน
และออกจากบ้านได้ ด้วยสถานการณ์แบบนี้จึงมีผู้ลักลอบแอบขายกำไลเถื่อน เพราะกำไลทำให้คนที่ใส่มีอภิสิทธิ์ในสังคม หนังก็สะท้อนให้เห็นว่าแม้ช่วงโควิด ก็ยังมี social inequality หรือความเหลื่อมล้ำในสังคม และก็ยังมีการทุจริตเกิดขึ้นอยู่ดี
อีกคู่หนึ่งก็จะเป็นนักร้องหญิง (ชื่อเรื่อง songbird หมายถึงนักร้องผู้หญิง) เธอมีความฝันอยากออกอัลบั้ม แต่ดันมาเจอช่วงโควิดทำลายฝันทั้งหมดของเธอ เธอไปเป็นภรรยาน้อยของครอบครัวที่ลักลอบขายกำไลเถื่อน ในช่วงที่่ต้องอยู่บ้านทั้งวัน เธอก็ได้ไปเจอเพื่อนออนไลน์เป็นทหารที่พิการ กลายเป็นมิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้นแม้จะไม่ได้เจอกันก็ตาม
ถ้าใครหวังจะดูหนัง thriller ระทึกขวัญหรือ science fiction เรื่องแต่งแนววิทยาศาสตร์ ก็เตรียมผิดหวัง เพราะ songbird เป็นหนังรักค่ะ ไม่เหมือนกับชื่อไทยที่ตั้งไว้แล้วดูเป็นแอคชั่นมาก หนังก็ไม่ถึงกับสนุกมาก พอดูได้ ก็ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของโควิดที่ยัง optimistic หรือก็คือมองโลกในแง่ดีนั่นเองค่ะ ตอนจบก็ happy ending แม้โควิดจะยังไ่ม่หาย แต่เราก็สามารถมีความสุขได้บนโลกนี้ในวิถีทางที่อาจจะแตกต่างออกไปจากเดิม