Articles

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: Seoul Ghost Story ผีดุสุดโซล

https://web.facebook.com/nuienglish/posts/5302955379756233  รีวิวให้เลยนะคะ หลังจากดู #SeoulGhostStory #ผีดุสุดโซล #หนังเกาหลี #พี่นุ้ยรีวิวหนัง  Highly not recommended อย่าได้เสียเงินมาดูเด็ดขาด มันการเอาเรื่องสั้นๆ 10 ตอนมาใส่ลงในหนัง โดยแต่ละเรื่องสั้นเกินไป ไม่ปะติดปะต่อกัน ขาดเหตุผล เป็นหนังผีแนวสยองแบบแหวะๆมีทั้งเลือดมีทั้งพยาธิและปรสิต  สรุปว่าหนังเรื่องนี้ lack unity ขาดเอกภาพ lack logical thinking ขาดเหตุผล ดูไปก็งงว่ามันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร ตอนจบยังหาข้อสรุปไม่ได้ Note: lack...

อังกฤษเคลียร์ๆ v.3 กริยาช่อง 3 ใช้ตอนไหน present perfect, past perfect ดร.พี่นุ้ย X We by the Brain

คำถาม v.3 ใช้กับเวลาช่วงไหน v.1 (play, go, eat) ใช้กับปัจจุบัน v.2 (played, went, ate) ใช้กับอดีต เลยทำให้น้องๆตกหลุมพรางว่า v.3 ใช้กับอนาคตค่ะ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ เพราะอนาคต รูปแบบพื้นฐานเลย เราจะมีคำว่า จะ คือ will + v. 1 รูปพื้นฐานไม่ผันไม่เติม -s ดังนั้น อนาคตจะได้เป็น...

อังกฤษเคลียร์ๆ put phrasal verb put out, put off, put up with, put on, put down ศัพท์ ดร.พี่นุ้ย

คำถาม: สืบเนื่องจากคำถามข้อที่แล้ว put out ที่แปลว่าดับไฟ แล้วมี put อะไรอีกนะที่ออกข้อสอบบ่อย ตอบ  put off put on put up with put off แปลว่า เลื่อน นะคะ เช่น The meeting was put off. จะแปลว่า การประชุมถูกเลื่อน ตรงนี้พี่นุ้ยให้ข้อสังเกตก่อนเลยว่า...

อังกฤษเคลียร์ ดับไฟ ไฟดับ ภาษาอังกฤษใช้อย่างไร ดร.พี่นุ้ย X เดอะเบรน เรียนอังกฤษนุ้ยอิงลิช ศัพท์

คำถาม: ดับไฟ ไฟดับ ใช้ภาษาอังกฤษยังไง ดับไฟ ถ้าเป็นไฟไหม้ แล้วเราดับไฟ จะใช้ว่า extinguish น้องๆนึกถึงถังแดงที่ใช้ดับไฟคือ เรียกว่า extinguisher นอกจากนั้นเรายังใช้ put out ก็ได้ด้วยนะคะ put out the fire จะแปลว่าดับไฟ ไม่ได้แปลว่า เอาไฟออกไปข้างนอกนะ แต่ถ้าดับไฟแบบไปปิดสวิตซ์ไฟ เราจะใช้ว่า turn off, switch off ค่ะ ...

three-year ทำไมไม่ต้องเติม -s พี่นุ้ย X We by the Brain ใช้ apostrophe บอกเวลา

คำถาม: สามปี year ต้องเติม -s หรือไม่ ตอบ ต้องไปดูรูปประโยคอีกทีนะจ๊ะ He is three years old. He is a three-year-old boy. ดูประโยคที่สองจะเห็นว่า year ไม่เติม –s เมื่อนำมาขยายหน้านาม และจะมี hyphen หรือขีดระหว่างคำด้วย ดูตัวอย่างกัน a three-hour flight ...

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: Gold (ทองกู)

วันนี้ไปดูเรื่องนี้มา #gold #ทองกู เข้าวันแรก รอบแรก คือบอกได้เลยว่าชอบมากแม้ว่าจะเป็นหนังทุนต่ำ คือเรื่องนี้เขาเรทว่าเป็น thriller คือระทึกขวัญ แต่เอาจริงมันเป็นจิตวิทยาแบบ slow burn (คือมีการดำเนินเรื่องไปช้าๆใส่ใจกับรายละเอียด) กับตอนจบที่ stunned (อึ้ง) ไปเลย  สปอยล์นะ เรื่องนี้มีตัวละครหลักอยู่ 4 ตัว โฟกัสอยู่ที่พระเอกแซก แอฟรอน ที่ตกอับอยากจะเดินทางไปเป็นคนงานเลยหารถจ้างไป คราวนี้สองคนขับรถผ่านทะเลทรายแล้วเผอิญเจอทอง แต่ทองก้อนใหญ่มากเอาไปไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจว่าจะไป excavator หรือรถ เครื่องมือขุดมา...

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: Doctor Strange in the Multiverse of Madness (จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย)

  วันแรกรอบแรกนะคะวันนี้สำหรับ #DoctorStrange #multiverse #พี่นุ้ยรีวิวหนัง ความนิยมของหนังทำให้พี่นุ้ยต้องนั่งแทบจะติดหน้าจอเพราะไม่อยากนั่งรวมกับใคร สนุกเกินความคาดหวังคือนอกจากจะเป็นเรื่องการต่อสู้ตามสาย Marvel แล้วยังมีพวกเวทมนต์คาถาและแม่มดเข้ามาด้วยถือเป็น fusion หรือการผสมที่ดีมากๆ ให้เรื่องนี้มี uniqueness หรือความเป็นเอกลักษณ์ ที่ชอบมากๆเลยคือตอนที่ตัวเอกกลับไปสิงร่างของตัวเองที่ตายแล้วในมิตินึงเพื่อไปต่อสู้กับคนที่จะมาทำลายโลก (possession นอกจากจะแปลว่าการครอบครองแล้ว ยังแปลว่าการสิงหรือยึดร่างได้อีกด้วย) เรื่องนี้สปอยลำบากมากค่ะเพราะมีหลายโลกคู่ขนาน มันต้องไปดูเอง และสุดท้ายเรื่องนี้มี End Credit 2 ครั้งนะคะ อันแรกก็จะพูดถึงหนังภาคต่อส่วนอันที่ 2 จะเป็นมุกตลกเล็กๆน้อยๆจากเรื่อง ซึ่งในส่วนที่ 2...

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: เทอมสองสยองขวัญ

#เทอมสองสยองขวัญ ดูเรื่องนี้ค่ะเทอมสองสยองขวัญ เล่าให้ฟังคือมันจะแบ่งเป็น 3 ตอนคล้ายๆกับเรื่อง 5 แพร่ง แต่ที่แตกต่างคือ 3 ตอนนี้มันจะไม่เกี่ยวข้องใดๆกันเลย เรื่องที่ 1 ที่ BNK เล่นคือสนุก พูดถึงเรื่องของเพื่อน 2 คนที่มีสัมผัสพิเศษเห็นผีเห็นวิญญาณ ส่วนเรื่องที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของนักศึกษาแพทย์ที่อยู่หอแล้วมีรุ่นพี่ในหอที่เคยตายไปแล้วกลับมาที่เตียงเดิม ส่วนเรื่องสุดท้ายอันนี้บอกเลยว่าไม่ชอบเพราะว่ามันเป็นผีกึ่งตลกของตึกเก่าคณะวิทยาศาสตร์ เห็นว่าทั้ง 3 เรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงด้วย ความรู้ภาษาอังกฤษเล็กน้อยที่ได้จากเรื่องนี้คือ congratulations อ่านว่า คอน แกรด...

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: Nightmare Alley (ทางฝันร้าย สายมายา)

มาแล้วค่ะใครที่ติดตามกันบ่อยๆจะรู้เลยว่าอันนี้เป็นหนังในแนวของพี่นุ้ยเลย #NightmareAlley คือมาในแนวจิตวิเคราะห์ เป็น drama + mystery (ลึกลับ) + thriller (เขย่าขวัญ) และไม่ผิดหวังแม้หนังจะความยาว 2 ชั่วโมงครึ่งแต่ดีมากๆอีกแล้ว เมื่อเทียบกับ #HouseOfGucci ยังบอกไม่ได้ว่าชอบอะไรมากกว่ากันเพราะดีทั้งคู่  เรื่องนี้นะคะมันพูดถึงคนที่เป็นคนต้มตุ๋นหลอกลวงโกหก ในภาษาอังกฤษใช้ว่า conman หากินจากการดูดวง ร่างทรง แต่จริงๆคือเขาใช้จิตวิทยาในการอ่านใจคนบวกกับการใช้ทักษะในการสื่อสาร และสุดท้ายตัวเขาก็โดนหลอกซะเอง คือความพิเศษของหนังมันอยู่ตรงที่เราได้เห็นพัฒนาการของคนคนนึง การใช้จิตวิทยาในการหลอกคน การเข้าไปผูกพันกับคดีฆาตกรรม และจุดจบของเขา เอาสั้นๆคือดีมาก แม้ว่าในช่วงแรกอาจจะค่อนข้างเอื่อยๆไปหน่อย...

เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง: House of Gucci (เฮาส์ ออฟ กุชชี่)

  เรื่องนี้ประทับใจมาก คือพี่นุ้ยเองเป็นคนที่ติดตามพวก case ธุรกิจอยู่แล้วพอเห็นเรื่องนี้ออกมาเออต้องดู เป็นหนังที่มีความยาวมากน่าจะเกือบ 3 ชั่วโมงได้ เล่าประวัติของ Gucci แต่คือเรื่องอาจจะไม่ได้เน้นธุรกิจมากมายเท่าไร ไปเน้นแนว rise and fall คือการรุ่งโรจน์และการตกอับของคนมากกว่า #Houseofgucci  ได้สำนวนมา 1 สำนวน คือ drop the soap – พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เปราะบางและอันตราย ลองไปหาที่มาของสำนวนนี้กันเองนะคะ (ไม่เหมาะกับเด็ก)