ติดตามชมพี่นุ้ยที่ English Breakfast
ช่อง Thai PBS วันเสาร์ 9.00 น.
ติดตามฟังพี่นุ้ยที่ MixRadio FM.96.75
และ TopRadio FM. 98.75 ทุกวัน หลังเคารพธงชาติิ
และ Top English FM. 102
ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 22.30 – 23.00 น.
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ Nui-English
อาคารบ้านสิ่งแวดล้อม
3/25-27 ปากซอยเรวดี 45
อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
มือถือ 089-883-4523
อีเมล์ nuienglish@hotmail.com
ตั้งกระทู้ถาม-ตอบปัญหาภาษาอังกฤษกับพี่นุ้ยได้ที่
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง |
สำหรับพี่เจนการเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโททางด้าน Marketing ที่มหาวิทยาลัย Kingston, London ประเทศอังกฤษ ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้พี่เจนได้มีโอกาสไปศึกษาต่อปริญญาโท ทางด้าน International Business ที่มหาวิทยาลัย Monash, Melbounre ประเทศออสเตรเลีย อย่างไรก็ดีความรู้สึกของพี่เจนในการเดินทางไปในครั้งนี้ กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเมืองลอนดอนถือเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และเป็นเมืองๆหนึ่งที่หลายคนใฝ่ฝันว่าอยากจะไปสัมผัส พี่เจนมีเวลาเตรียมตัวไม่มากก่อนเดินทาง แต่ก็ไม่ลืมที่จะนำเสื้อหนาวและเสื้อกันฝนไป เพราะได้ยินว่าอากาศในประเทศอังกฤษมักจะฝนตกตลอด วันหนึ่งสามารถตกได้ถึง 8 รอบ และแล้วเมื่อได้มีโอกาสไปเรียนที่นั่นก็พบว่าที่เขากล่าวขานกันนั้นเป็นความจริง เมื่อครั้งที่ออกเดินทางไปถึงสนามบินความรู้สึกตื่นเต้นกลับมลายหายไปสิ้น เมื่อได้พบฝูงชนที่มายืนรอเพื่อจะผ่าน Immigration พี่เจนก็รู้สึกว่า นี่หรือคือสนามบิน Heathrow Airport ไม่เหมือนอย่างที่คิดฝันไว้ สนามบินค่อนข้างเก่า และก็เป็นทางเดินแคบๆไปจนถึงด่าน ทำให้แถวยาวมาก
ในกรุงลอนดอนนี้จะถูกแบ่งออกเป็น Zone ต่างๆ ตามความใกล้ไกลจากใจกลางเมือง อาทิ ในโซน 1 – 2 ถือเป็นเขตในเมือง อาทิถนน High Street Kensington, Hyde Park, Oxford Street หรือ Bond Street ถือเป็นย่านช้อปปิ้งหรูหราและมีคนรวยอาศัยอยู่ ถนนและบ้านเรือนสวยงามมากแลดูเป็นระเบียบ ส่วน Kingston หรือ Wimbledon ถือเป็นย่านที่อยู่ชานเมือง บ้านจะเป็นหลังใหญ่ กว้างขวางเรียบง่ายสงบไม่วุ่นวายได้สัมผัสกับธรรมชาติ ที่อังกฤษนี้มีคนหลายชาติหลายภาษารวมอยู่ในเมืองหลวงเดียวกัน ดังนั้นในย่านต่างๆจะพบคนหลายเชื้อชาติกระจุกตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ ย่าน China Town หรือที่เรียกกันติดปากว่า Soho เป็นย่านที่พบคนเชื้อชาติจีนอยู่เป็นจำนวนมาก ย่าน New Malden ก็จะเป็นย่านที่มีกลุ่มคนเกาหลีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็น Korea Town ก็ว่าได้ เมืองลอนดอนเป็นเมืองใหญ่ที่มีอยู่ด้วยกันถึง 6 โซน การเดินทางจากโซนหนึ่งไปจนถึงโซน 6 นั้น ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า หรืออย่างเร็วหน่อยก็ 45 นาที สำเนียงอังกฤษนั้นก็แน่นอนว่าคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนไทยต้องปรับตัว เพราะภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษได้ขึ้นชื่อว่า เป็นสำเนียงที่ฟังยากที่สุดสำเนียงหนึ่ง แต่อย่างนั้นก็ดี คนที่อยู่ทางเหนือของอังกฤษติดกับสก็อตแลนด์ สำเนียงจะฟังยากมากที่สุด ถึงแม้คนอังกฤษในลอนดอนเองบางครั้งก็มีปัญหาในการสื่อสารกัน
การเรียนหนังสือที่ Kingston University, Marketing course นั้นถือว่าค่อนข้างยาก เพราะ Kingston University มีชื่อเสียงทางด้าน Marketing Programme ติด Top Rank ในอังกฤษ ที่อังกฤษนี้เขาจะแบ่งเป็น Semester ในปีหนึ่งจะมีทั้งหมด 3 Semester แบบนี้ยิ่งทำให้ช่วงเวลาในการเรียนน้อยลง เพราะเท่ากับว่า Semester หนึ่งครอบคลุมเวลาประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้นวิชาที่เรียนกับเนื้อหาจะอัดแน่นมาก เทอมแรกของพี่เจนนั้นถือว่าหนักมาก เพราะต้องเรียนทั้งหมดด้วยกันทั้งหมด 7 วิชา พี่เจนคิดว่าแต่ละวิชานี้ยากมาก เทอมที่ 2 ก็เช่นเดียวกัน ส่วนเทอมสุดท้ายก็เหลือเพียงทำ Dissertation โดยเกือบทุกอาทิตย์จะอาจารย์จะให้การบ้านเป็นรายงานและบังคับให้นักเรียนทุกคนออกไป Presentation อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในตอนเรียนนั้น วิชาที่ทำให้พี่เจนปวดหัวมากที่สุดเห็นจะเป็น Marketing Research คือการเรียนรู้วิธีเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านการตลาดรวมทั้งวางแผนทำแบบสอบถาม Survey Analysis เป็นวิชาที่เกื้อหนุนกันกับ Marketing Research เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะต้องเรียนรู้วิชาทางสถิติอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดโดย SPSS Program ซึ่งจะสำคัญมากในการทำ Dissertation และสุดท้าย Marketing Finance ซึ่งพี่เจนจำเป็นต้องเรียนรู้หลักการทำบัญชีเบื้องต้น เพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์ระบบการเงินของแต่ละบริษัทเพื่อศึกษาความคุ้มทุนในแต่ละโครงการ
สถานที่ที่พี่เจนเรียนนั้นอยู่ในย่านที่เป็นธรรมชาติมากๆ ตั้งอยู่บนเขา โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ อากาศดี แต่มีเพียงรถเมล์ 2 สายเท่านั้นที่ผ่านหน้ามหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พี่เจนได้รู้จักเพื่อนๆมากมายหลากหลายเชื้อชาติ เนื่องจากนโยบายการรับนักศึกษาของโปรแกรมนี้เขาบังคับให้รับนักศึกษาทุกเชื้อชาติ แต่ได้เชื้อชาติละไม่เกิน 5 คน นอกเหนือจากเพื่อนคนไทยแล้วพี่เจนยังมีเพื่อนมาจาก อังกฤษ อินเดีย ปากีสถาน จีน เกาหลี และหลายประเทศในแถบยุโรป อาทิ กรีซ สาธารณรัฐเชค และอิตาลี เป็นต้น ชีวิตที่นั่นสำหรับพี่เจนแล้วถือว่าค่อนข้างลำบากเนื่องจากที่พักอยู่ไกลมหาวิทยาลัย ชีวิตในลอนดอนสำหรับพี่เจนนั้นก็ไม่ได้สวยหรู ทุกเช้าต้องนั่งรถเมล์ 3 ต่อเพื่อไปมหาวิทยาลัย แต่ละครั้งที่รอรถเมล์ รู้สึกเหมือนจะขาดใจโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว อากาศหนาวมากหมอกลงจัด และวิชาแรกที่เริ่มสอนคือตอน 8 โมงเช้า ปกติแล้วอากาศที่อังกฤษจะหนาว เป็นส่วนใหญ่ตลอดปี ยกเว้นช่วงหน้าร้อนซึ่งถือว่าร้อนจริงๆ แนะนำเมืองมาตั้งยาว
ตอนนี้มาถึงประสบการณ์กันบ้าง พี่เจนจะเรียกว่าโชคร้ายก็ได้ พี่เจนต้องย้ายบ้านมาแล้วถึง 6 ครั้ง ครั้งที่1 ย้ายบ้านจากบ้านของเพื่อนคุณน้ามาอยู่บ้านที่ใกล้มหาวิทยาลัย พี่เจนถูกเจ้าของบ้านเช่า (Landlord) รวมทั้ง Agent บังคับให้จ่ายเงินค่าเช่าบ้านล่วงหน้า 6 เดือน รวมทั้งเงินมัดจำอีก 2 เดือน รวมทั้งสิ้น 8 เดือน เป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่ว่าบ้านเช่าที่ไปอยู่นั้นมีปัญหามาก ทั้งหลังคาในห้องน้ำรั่วทุกครั้งเวลาฝนตก เจ้าของบ้านอายุ 60 ก็พยายามมาติดต่อพี่เจน มาพบถึงที่ห้องพักและขู่แกมบังคับให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก พี่เจนจึงปรึกษาเพื่อนที่เรียนด้วยกัน พวกเขาแนะนำให้ไปคุยกับอาจารย์ สหภาพนักศึกษาและปรึกษา Student Accommodation Services Center ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี เขาอาสาไปคุยกับ Agent และ Landlord ให้ ทำให้เขายินดีคืนเงินบางส่วน ถึงแม้จะไม่ทั้งหมดแต่พี่เจนก็ดีใจมากเพราะเงินปอนด์เมื่อเทียบกับเงินไทยในขณะนั้น 1 ปอนด์ ประมาณ 73 บาท ครั้งที่2 ที่ย้ายไปที่อยู่ใหม่คราวนี้จ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 6 เดือน และเงินมัดจำ 1 เดือน ไม่น่าเชื่อว่าเกิดปัญหาเดิมอีก แต่คราวนี้แย่กว่าเดิม ทั้งๆที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ถูกปรับปรุงใหม่ โดยเจ้าของบ้านแบ่งห้องให้เช่า คราวนี้นอกจากจะมีปัญหาน้ำซึมแล้ว เครื่องซักผ้ายังเป็นต้นเหตุให้น้ำท่วมห้องอีก มากกว่านั้นไฟฟ้าก็ถูกตัด เนื่องจากเจ้าของบ้านจัดสรรไฟเองแบบไม่ถูกกฎหมาย ทางการฯจึงมาทำการตัดไฟ แย่ซ้ำกว่านั้นเมื่อห้องพักนี้ไม่ใช้แก๊ส เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างรวมทั้งน้ำอุ่น และเครื่องฮีตเตอร์ก็ใช้ไฟฟ้า ขณะนั้นที่ลอนดอนหนาวมากจำได้ว่าเป็นช่วงหน้าหนาว พี่เจนนอนร้องไห้ทุกวัน ต้องนำรายงานไปทำที่ห้องสมุดถึงตี 2 ทุกคืน เพราะเป็นที่เดียวที่จะทำรายงานที่อาจารย์สั่งได้ ถ้านอนห้องสมุดได้ก็คงทำ แต่ว่าห้องสมุดปิดตี 2 ช่วงนั้นพี่เจนต้องอดทนมาก เพราะนอกจากจะเรียนหนังสือหนักแล้วยังติดช่วงใกล้สอบอีก บ้านก็ไม่มี ไม่รู้ว่าจะไปอาศัยอยู่กับใคร เพื่อนๆก็ไม่สะดวกจะให้ไปอยู่ด้วยเนื่องจากติดช่วงสอบ พี่เจนจึงตัดสินใจว่าในช่วงแรกจะไปรบกวนเพื่อนอาศัยด้วย 2 คืน ส่วนคืนที่เหลือก็อยู่โรงแรม ประมาณเกือบสองอาทิตย์พอสอบเสร็จแล้วจึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินบินกลับกรุงเทพฯทันที แล้วเมื่อถึงเวลาทำ Dissertation ค่อยเดินทางกลับมาลอนดอน ตอนนั้นจากนักเรียนอังกฤษกลายเป็นนักเรียน Homeless รู้สึกว่าชีวิตในขณะนั้นหดหู่มาก
แต่ความโชคดีในความโชคร้ายก็ยังคงมีอยู่ พี่เจนได้รู้ซึ้งถึงน้ำใจของคนอังกฤษแท้ๆ แม้ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน ภาษาเดียวกันแต่ความมีน้ำใจนั้นเต็มเปี่ยม คนที่ทำงานดูแลนักเรียนที่ Student Accommodation Services Center คอยให้ความช่วยเหลือพี่เจนในทุกเรื่อง อาสาขนของทั้งหมดของพี่เจนไปฝากไว้ที่บ้านของเขาในช่วงเวลาที่พี่เจนไม่อยู่รวมทั้งให้คำปรึกษาในเรื่องบ้านและเรื่องคดีความ เนื่องจากพี่เจนคิดว่าคราวนี้พี่เจนจะฟ้องร้องเพื่อปกป้องสิทธิของตนเพื่อขอเงินค่าเช่าบ้านในส่วนที่เหลือคืน พี่เจนทำทุกทางติดต่อคนหลายฝ่ายรวมทั้งเก็บหลักฐานทุกอย่าง จนสุดท้ายทางฝ่ายเจ้าของบ้านยอมความและคืนเงินในส่วนที่เหลือให้ เมื่อกลับมาพี่เจนก็ย้ายไปอยู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แต่อยู่ได้ไม่นานเนื่องจากย่านที่เขาอยู่นั้นเป็นย่านคนดำ น่ากลัวมากติดอันดับย่านอาชญากรน่ากลัวที่สุดย่านหนึ่งของเมือง จนสุดท้ายได้ย้ายมาอยู่ที่พักที่ทาง Student Accommodation Services Center แนะนำให้เพราะมีห้องว่างพอดี
ชีวิตนักเรียนไทยในต่างแดนนั้น ไม่ได้หอมหวนเหมือนอย่างที่เพื่อนๆทุกคนวาดฝันไว้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอคนดีหรือว่าไม่ดี ได้เจอโชคดีหรือว่าโชคร้าย แต่พี่เจนเชื่อแน่ว่าทุกประสบการณ์ที่ได้รับในต่างแดนนั้น สอนอะไรกับเรามากมายหลายอย่าง สอนวิธีการดำเนินชีวิตด้วยตนเอง ต่อสู้ด้วยตนเองกับทั้งความเหงาและภาษา สำเนียงที่ไม่คุ้นเคย การเรียนรู้ที่จะอดทน ได้มีโอกาสไปเห็นวิวัฒนาการที่ทันสมัยและความศิวิไลซ์ในเมืองใหญ่ บ้านเมืองที่สวยงามเป็นระเบียบ ความเก่าแก่ ความขลังและประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศผู้ซึ่งครั้งหนึ่งได้รับการขนานนามว่า ประเทศซึ่งพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เนื่องจากมีดินแดนอาณานิคมเป็นจำนวนมาก ได้เห็นความสวยงามของเมืองตลอดจนพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงต่างๆในอังกฤษซึ่งมีอายุกว่ายาวนานกว่า 1,000 ปี ประสบการณ์ที่พี่เจนได้รับจากการศึกษาต่อ ณ. ประเทศอังกฤษในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและประทับใจซึ่งประกอบด้วยกันทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป เป็นประสบการณ์ที่ทำให้พี่เจนเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น และเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากครั้งหนึ่งที่พี่เจนจะไม่มีวันลืมเลย สุดท้ายนี้ได้เห็นน้ำใจที่แท้จริงที่มาจากความจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทนอื่นใดแท้ๆของคนอังกฤษ ความโอบอ้อมอารีที่มักพบเห็นเสมอตามถนนหนทางและสัมผัสได้เมื่อไปเยือนไม่ว่าคุณจะหลงทางหรือ
มีปัญหาคนที่นี่ก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ และยื่นมีเข้ามาช่วย พี่เจนเชื่อแน่ว่าคุณจะเห็นเหมือนอย่างที่พี่เจนเห็น เพราะว่าพี่เจนได้ไปสัมผัสมาแล้ว
จารินี กันตนฤมิตรกุล
Assistant Product Manager
Credit Card Division
Bangkok Bank
คลิกที่นี่เพื่ออ่านเรื่องอื่นๆ