Nui-English Tips

คำว่า experiment ใช้อย่างไร

experiment with new products เมื่อเราใช้ experiment เป็นกริยาที่มีความหมายว่าลอง เราจะไปกับบุพบทคือ with https://www.oxfordlearnersdictionaries.com/…/experiment_2 https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4314852548551156?_rdc=1&_rdr

การเขียนหรือพูดเพื่อสอบ ความคิดเป็นสิ่งสำคัญ

การเรียนเขียนหรือพูดเพื่อไปสอบ พี่นุ้ยจะไม่ให้น้องๆเริ่มต้นจากการเรียนไวยากรณ์ ในทุกคอร์สของการเรียนลักษณะนี้ (express ideas) สิ่งที่พี่นุ้ยให้ความสำคัญคือความคิด จุดที่เน้นเลยคือการตอบคำถามโจทย์ วางโครงเรื่อง และการให้เหตุผล เพราะถ้าเราเริ่มเรียนจากไวยากรณ์เราก็ไม่ได้เขียนไม่ได้พูดสักที เวลาไปเจอโจทย์ก็จะจับปากกาค้างอยู่เหมือนเดิม หลังจากได้ความคิดหลักที่เราจะเขียนแล้ว พี่นุ้ยก็จะให้ประโยคที่เป็น pattern ซึ่งน้องๆสามารถเอาไปจับสวมใช้ได้เลย ถ้าเป็นเด็กแพทเทิร์นก็จะออกแบบเด็กๆส่วนถ้าเป็นผู้ใหญ่ในแนวการเขียนเชิงวิชาการก็จะเป็น pattern ที่มีระดับภาษาอีกแบบนึง ที่ต้องให้จำประโยคไปบ้างก็เพราะเวลาเราทำข้อสอบหรือไปพูดสัมภาษณ์ เราต้องทำงานแข่งกับเวลาถ้าให้คิดเองตั้งแต่เริ่มอาจจะไม่ทันการณ์นะคะ ในการเรียนคอร์สประเภทนี้ พี่นุ้ยจะไม่ปล่อยนักเรียนให้เขียนอะไรก็ได้หรือพูดอะไรก็ได้แบบไม่มีทิศทางเพราะเราต้องวางกลยุทธ์ในเชิงเนื้อหาเพื่อทำคะแนน สู้ๆ https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4315072545195823?_rdc=1&_rdr

วิธีการคิดก็สำคัญ ไม่แพ้การฝึกฝน

ในการเรียนภาษาอังกฤษ พี่นุ้ยจะไม่ได้เน้นว่าต้องฝึกฝนบ่อยๆเป็นอันดับแรก เพราะพี่นุ้ยจะให้ความสำคัญกับเรื่อง logic วิธีการคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษสำหรับการสอบและวิชาการ (Academic English) เราต้องรู้ว่ากระบวนการคิดและกระบวนการที่จะไปถึงสิ่งที่ถูกต้องคืออะไรก่อนเป็นอันดับแรก https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4319794701390274?_rdc=1&_rdr

การจัดคอร์สเรียนให้เหมาะสมสำหรับผู้เรียน

ในการลงคอร์ส พี่นุ้ยจะมีการโทรไปสอบถามหรือข้อความถามรายละเอียดผู้เรียนและเลือกคอร์สให้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยเฉพาะในคอร์ส advanced รายละเอียดมีความสำคัญมากในการจัดคอร์สเรียนทำให้พี่นุ้ยต้องสอบถามแบคกราวด์คนเรียนนะคะ (ยกเว้นแต่ว่ามีน้องๆบางคนมั่นใจว่าจะลงคอร์สนี้แน่ๆขอลงเลยได้มั้ย ไม่ต้องคุยแล้ว) https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4323794384323639?_rdc=1&_rdr

คำว่า power of small wins แปลว่า

power of small wins การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆจะค่อยๆนำไปสู่อะไรที่ยิ่งใหญ่ https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4322705761099168?_rdc=1&_rdr

คำว่า diet ใช้อย่างไร

diet ที่ใช้ทั่วไปและออกข้อสอบจะแปลว่า อาหาร ส่วนที่แปลว่าลดน้ำหนักตามแบบไทยๆเรา มักใช้ว่า go on a diet https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4334723673230710?_rdc=1&_rdr

คำว่า soothe ออกเสียงอย่างไร

วันนี้มากับคำว่า soothe (อ่านว่า ซูด ตัวสุดท้าย ออกเสียงเหมือน d แต่ลิ้นอยู่ระหว่างฟันบนกับฟันล่าง) แปลว่า ผ่อนคลาย บรรเทา ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกมาแล้วในพาทรีดดิ้งกับโวแคบนะคะ ออกเรื่อง soothing music เพลงที่ฟังแล้วผ่อนคลาย (passage เรื่องโรงพยาบาล) แต่พี่นุ้ยมาในแนว soothing cream คือครีมที่ใช้แล้วปลอบประโลมผิว ใช้กับผิวแพ้ง่าย https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4338767172826360?_rdc=1&_rdr

คำว่า เครียด ในภาษาอังกฤษ

I am stressed. ฉันเครียด เราใช้ stressed เป็น adj. ขยายคำนามหรือสรรพนามนะคะ ถ้า I am stress. จะแปลว่าฉันคือความเครียด ซึ่งใช้ไม่ได้ (stress เป็นคำนามแปลว่าความเครียด) และจะพูดว่า I am serious. ก็ไม่ได้อีกเช่นกัน คนไทยแปลซีเรียสว่าเครียด แต่จริงๆแล้ว I am serious. มันแปลว่า ฉันตั้งใจจริงจัง ไม่ได้ล้อเล่น...

เข้าใจหลักการ และฝึกให้บ่อย

บางทีเพลียคำพูดที่ว่าฝึกบ่อยๆเดี๋ยวก็เก่งเอง จริงๆมันก็ถูกต้องนะคะในส่วนของการฟังคือฟังบ่อยๆมันก็จะช่วยทำให้ดีขึ้น แต่พี่นุ้ยก็ไม่ได้เห็นด้วยไปซะทั้งหมด พี่นุ้ยมาสายของภาษาอังกฤษเชิงวิชาการเลยเชื่อว่าเราต้องเข้าใจหลักการของมันก่อน แล้วถึงไปฝึกบ่อยๆ เปรียบเสมือนการบวกเลขเราต้องบวกให้ได้สักข้อสองข้อก่อนแล้วถึงจะทำข้อต่อไปได้ ยิ่งถ้าเราไม่เข้าใจและเราไปใช้ผิดอย่างนั้นบ่อยๆเราก็จะทำผิดซ้ำๆจนกลายเป็นนิสัยแล้วมันก็จะแก้ยาก โดยเฉพาะในส่วนการเขียน น้องๆที่เคยเรียนกับพี่นุ้ยจะรู้เลยว่าพี่นุ้ยมีมาตรฐานและการอ้างอิงที่ชัดเจนเพื่อจะบอกว่าอันไหนถูกผิดและถ้าจะทำให้มันดีขึ้นจะมีทางไหนบ้างที่เป็นไปได้ ก็เลยอยากจะสรุปว่าการฝึกฝนมันไม่ใช่เป็นทุกอย่าง พี่นุ้ยว่าฐานของความเข้าใจที่ถูกต้องนั่นแหละสำคัญและมันจะช่วยลดระยะเวลาของการฝึกฝนได้ https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/4364141766955567?_rdc=1&_rdr

การสร้าง competency สำหรับแต่ละคน

ในปีที่ผ่านมาได้ร่วมงานกับหลายองค์กร ชอบตรงที่ได้เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างและพัฒนาตัวเองเพื่อตอบโจทย์ของแต่ละที่และการได้คุยกับน้องๆนักเรียน (บางคนก็เป็นผู้ใหญ่อะนะ แต่เรียกน้องหมด) ทำให้เราได้รู้ถึง pain point หรือปัญหาต่างๆของคนที่เรียนภาษาอังกฤษนำมาสู่การพัฒนาคอร์สที่ตอบโจทย์ของคนในแต่ละกลุ่มที่ก้าวไปมากกว่าการสอนพื้นฐาน แต่เน้นการสร้าง competency ที่จะตอบโจทย์การใช้ภาษาอังกฤษสำหรับชีวิตของแต่ละคน ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆในปีนี้ https://web.facebook.com/nuienglishbreakfast/