Articles

ผู้ประนีประนอมประจำศาล ต้องมีความรู้อะไร

เข้าเวรศาลจังหวัดนนท์ค่ะวันนี้ มีน้องๆถามว่าการเป็นผู้ประนีประนอมเราต้องมีความรู้อะไรหรือเรียนอะไรมาเฉพาะทางไหม คำตอบก็คือการประนีประนอมขึ้นอยู่กับความสมัครใจและการตกลงของคู่ความ ดังนั้นเราอาจจะไม่ต้องรู้กฎหมายในเชิงลึกแต่อาศัยการหาความต้องการที่แท้จริงของคู่ความ ยกเว้นในศาลบางศาลเช่นศาลทรัพย์สินทางปัญญาอันนี้จะมีกฎหมายเฉพาะซึ่งเราต้องเข้าไปศึกษาลักษณะและข้อกำหนดของทรัพย์สินแต่ละประเภท ซึ่งพี่นุ้ยก็ได้หาความรู้โดยรวบรวมไว้เป็น playlist ใน YouTube สำหรับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาถ้าใครสนใจเข้าไปได้เลยนะคะที่ https://youtube.com/playlist… เป็นวีดีโอที่พี่นุ้ยคัดมาและฟังมาแล้วหลายๆรอบ https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0bwkwdHkq468NzeiBBDmMRhBUPLBhzAmMpppgJK8n9Tuo4NHeQFvEPeksFRKgmyiml&id=100064709495376

หลักคิดในเรื่องของการสร้างประโยค

วันนี้พูดถึงหลักคิดในเรื่องของการสร้างประโยคนะคะคือในบริบทที่เป็นทางการ การเขียนประโยคโดยวางอยู่บนไวยากรณ์ที่ถูกต้องนั้นเป็นระดับที่ 1 ไป จากนั้นพี่นุ้ยยังดูในเรื่องของระดับภาษาและคุณภาพของประโยค ตัวอย่างเช่นเมื่อตั้งประโยคขึ้นมาว่า Thailand is the land of smile. เราอาจจะทำให้ประโยคมันดูมีอะไรมากขึ้นโดยการเติมอะไรต่างๆเข้าไปแต่การเติมนั้นจะต้องอยู่บนหลักการที่ถูกต้องนะคะ ตัวอย่างเช่น Thailand is the land of smile, distinguished with hospitality and kindness. และเรายังอาจสร้างรูปประโยคให้หลากหลายโดยเอาสิ่งที่เติมข้างหลัง คือ ตั้งแต่ distinguished…ไปวางไว้ด้านหน้าของประโยคก็ได้นะคะ หน้าที่ของพี่นุ้ยก็คือไม่ใช่แค่บอกว่าจะเขียนออกมาเป็นยังไงแต่พี่นุ้ยจะสอนว่ากลไกของสมองที่พี่นุ้ยจะสร้างประโยคเหล่านี้ขึ้นมาพี่นุ้ยคิดอะไรเป็นขั้นเป็นตอน...

การทำความเข้าใจกับประโยคยาวๆ ในภาษาอังกฤษ

ปัญหาอย่างนึงของคนเรียนภาษาอังกฤษ คือ เมื่อเรียนถึงจุดนึงเราจะต้องทำความเข้าใจกับประโยคยาวๆ ซึ่งโดยมากคนมักใช้สัญชาตญาณมาแปลแบบไม่มีหลัก เปิดหาความหมายศัพท์แล้วก็ใช้ความเข้าใจตัวเองจับมาชนๆกัน ซึ่งจริงๆแล้วภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มี structure หรือโครงสร้างที่ชัดเจน การแปลหรือทำความเข้าใจเราจะบอกได้เลยว่าสิ่งนี้ผิดหรือถูก สิ่งนี้เป็นหลักหรือแค่ส่วนขยาย ดังนั้นในการสอนประเภทนี้พี่นุ้ยจะให้นักเรียนทำความเข้าใจกับกฎหรือเงื่อนไขต่างๆ ไม่ใช่เปิดดิคแล้วแปลไปแบบเปะปะ ซึ่งจุดนี้สำคัญมากสำหรับคนที่จะเติบโตไปในเส้นทางวิชาการหรือเรียนต่อในระดับสูงขึ้น คอร์สการอ่านของพี่นุ้ยจึงมีทั้งการอ่านเพื่อเน้นหาคำตอบ (ทำข้อสอบ) และการอ่านเพื่อความเข้าใจจริงๆ เช่น การอ่านวารสารวิชาการ หรือ journal articles ซึ่งเส้นทางวิชาการนั้นถือเป็น strength ของ nuienglish https://www.facebook.com/watch/?v=898204144476284&extid=CL-UNK-UNK-UNK-AN_GK0T-GK1C&ref=sharing

คำถามสัมภาษณ์ ทุน Chevening Scholarship

อย่างหนึ่งที่นึกขึ้นมาได้เมื่อเห็นคนประชาสัมพันธ์เรื่องทุน Chevening Scholarship แล้วมาสอนภาษาอังกฤษพวก Tense หรือประโยคแนะนำตัวอะไรบางอย่างแล้วบอกว่านี่จะทำให้คุณได้ทุนรัฐบาลอังกฤษ พี่นุ้ยในฐานะคนที่เคยได้ทุนชีฟนิ่งมาก่อนก็คิดว่ามันก็อาจจะเป็นไปได้นะ แต่จริงๆแล้วอยากให้ทุกคนตระหนักว่าเวลาเราจะสอบชิงทุนเราต้องเข้าใจทุนที่เราจะสอบก่อน (พี่นุ้ยเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือคลิปวิชาคว้าทุนนะคะ) ทุนมันจะมีเกรดนะคะอย่างทุนรัฐบาลอังกฤษนี่ถือเป็นทุนเกรด A คือระดับยาก ดังนั้นเขาจะไม่มาถามอะไรที่ง่ายๆทั่วๆไป หรือถึงแม้จะแนะนำตัวก็ต้องแนะนำแบบมีอะไร มี point of view ทุนเขาคาดหวังคนที่จะมาเป็น change agent หรือผู้ที่เปลี่ยนแปลงสังคม คำถามที่เขาให้มันจะเป็นในแนวของการวัดทัศนคติและความคิดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงออกในเชิงนโยบาย ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษที่จะต้องฝึกแต่มันต้องฝึกความคิดควบคู่กันไปด้วย ฝากไว้ประมาณนี้ก่อนนะคะสำหรับวันนี้ https://www.facebook.com/nuienglishbreakfast/posts/pfbid0scUs9hA5UG47MdtjEdwg5qp5eDZiXX3JdRhFh9rFGTGK1hedeRJuuYnqzDzeJSTWl

เยี่ยมน้องๆ ผ่านทางออนไลน์ ของสถานพินิจจังหวัดนนทบุรี

วันนี้ได้เยี่ยมออนไลน์เด็กๆของสถานพินิจจังหวัดนนทบุรี พี่นุ้ยได้เอาเรื่องราวดีๆจากหนัง #TheReefStalked ที่ไปดูล่าสุดไปสปอยให้น้องๆฟัง ตัวเอกแม้จะเคยผ่านความผิดพลาดและมีปมในใจกับอดีตที่ผ่านมาแต่ก็สามารถที่จะเอาชนะความกลัวของตัวเองและฆ่าฉลามเพื่อปกป้องเพื่อนและน้องของเธอได้ ก็เสมือนว่าชีวิตของเราสามารถเริ่มใหม่ได้ทุกวัน ไม่ว่าเราจะเคยผ่านอะไรมาก็ตามแต่เราต้องพยายามเอาชนะและอยู่กับมันให้ได้นะคะทุกคน https://www.facebook.com/nuienglish/posts/pfbid02tvVQ7XZ4Ber3kQBCPvGNReMrHgpRFQBBwU8kYgNXrBeAkfHX3FbT6WZ4nUXNQ3Xol

สอน conversation แบบที่มีการให้เขียนควบคู่ไปด้วย

ในการสอน conversation พี่นุ้ยอาจจะสอนแปลกกว่าคนอื่นหน่อยตรงที่ถ้าคนเรียนมีความสามารถระดับหนึ่งแบบพอพูดได้บ้างแล้ว พี่นุ้ยจะสอน conver แบบที่มีการให้เขียนควบคู่ไปด้วยเพราะต้องการตรวจแก้ประโยค   อันนี้มาจากความฝังใจในช่วงเด็กๆมีความรู้สึกว่าเวลาเรียน conver อาจารย์ปล่อยพูดไปเรื่อยๆ มันก็ได้นะคะแต่ก็ได้แค่ในส่วนของความกล้าที่จะสื่อสาร แต่ไม่ได้ในเรื่องของพัฒนาการของการใช้ภาษา เพราะในจุดที่เราใช้ผิดมันก็ยิ่งผิดไปเรื่อยๆเพราะไม่ได้รับการแก้ไขกลายเป็นความเคยชิน พี่นุ้ยค่อนข้างให้ความสำคัญในแง่ของตัวเนื้อหาเองและในแง่ของการใช้ภาษาให้ถูกต้องไปควบคู่กัน   https://www.facebook.com/nuienglish/posts/pfbid04R1XtjykyC5uHFqSd28JYecoKs5HcdHHMQpcsFNASmKZDjoZTZ7nm7j4n46aMZE1l?_rdc=1&_rdr

อนุสรณ์แห่งความทรงจำ

คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของพี่นุ้ยที่ได้เงินจากทุน ก.พ. งวดแรกไปซื้อ งวดแรกของทุนจะให้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายก่อนเดินทางประมาณ 50,000 บาท   ถึงตอนนี้คอมเครื่องนี้ก็ยังพอใช้งานได้อยู่ น้องๆที่ผ่านไปผ่านมาน่าจะเคยเห็นเครื่องนี้อยู่ในห้องนะคะ เก็บไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ   https://www.facebook.com/nuienglish/posts/pfbid021SZQ1k7rDDuJpLXhjtnBgpVkFi7jZSqgk8b7tCQdCfVXKr8uJP3CDHkyrRNu91Bil

ทักษะในเรื่องของ time management และ ability to deal with pressure

จบการเรียนการสอนไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วและทำรายงานจบหลักสูตรส่งไปเมื่อวานนี้ตอนกลางคืน ยิ่งเรียนสูงขึ้นหรือทำงานในระดับที่สูงขึ้น  รู้สึกได้เลยว่าความสามารถในเรื่องของการอ่านและการเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในบริบทที่เป็นทางการหรือเป็นวิชาการนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก    ระดับนี้จะเน้นการรับ input เข้ามาเพื่อส่งออกเป็น output ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือทักษะในเรื่องของ time management และ ability to deal with pressure   https://www.facebook.com/photo/?fbid=436239381876375&set=pcb.436239438543036

รู้จักตัวเองและรู้เป้าหมายที่เราจะไป

น้องๆหลายคนถามว่าเราจะเรียนปริญญาโทปริญญาเอกกันไปทำไม อันนี้มันต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนนะคะ แต่ถ้าเราอยากจะทำงานวิชาการหรือถ้าอย่างพี่นุ้ยต้องการสอนในระดับที่ลงไปในเชิงลึก การเรียนแค่ปริญญาตรีมันไม่พอแน่ๆ การเรียนโท/เอกจะสอนให้เราตั้งคำถามและกระบวนการที่ก่อให้เกิดการได้มาซึ่งความรู้ (knowledge acquisition) รวมถึงการถ่ายทอดความรู้นั้นออกไปให้คนอื่นเข้าใจ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจเรียนเราต้องถามตัวเองก่อนว่าเป้าหมายของเราคืออะไรและออกแบบเส้นทางที่จะนำไปสู่เป้าหมาย เช่นเดียวกับการเรียนภาษาอังกฤษ หลายคนมาในเส้นทางของการเขียนงานวิชาการ แต่เวลาเรียนภาษาอังกฤษไปเรียนแบบทำข้อสอบช้อยส์ซึ่งพี่มองว่าเส้นทางกับเป้าหมายมันไม่ค่อยไปด้วยกัน สุดท้ายมันก็จะย่ำอยู่กับที่ เราจึงต้องรู้จักตัวเองและรู้เป้าหมายที่เราจะไป สิ่งนี้สำคัญมากๆเลยนะ   https://www.facebook.com/nuienglish/posts/pfbid02G2GiZzwHK2a1REqdYAv32XKZ4WuhxGtp3hTf8TXsaUqNpidJrxdNqit5FSXfoBSsl?_rdc=1&_rdr

Don’t take it literally

Don’t take it literally. หมายถึง อย่าแปลไปตามตัวอักษร เช่นกรณีพี่รอเพื่อนนานๆแล้วพี่หงุดหงิดพูดไปว่า I want to kill you. อันนี้เราไม่สามารถแปลไปตามตัวอักษรได้ พี่ ไม่ได้ต้องการจะฆ่าเพื่อนจริงๆ แต่มันคือการแสดงถึงอารมณ์โกรธแบบไม่พอใจนะคะ ยังอยู่ในการตรวจเทปอยู่เลยคราวนี้ก็อาจจะช้าหน่อยเพราะว่าต้องเตรียมตัวสอบไปด้วยและก็สอนของตัวเองไปด้วยอีกต่างหาก https://web.facebook.com/nuienglish/posts/pfbid02PzfDXryEvAMMLDGB5miJFHti7Db2sRJRUpcZFx79nVwF1AQB4oDzrDP4uktoZLFel